วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

สนามบินผู่ตง-เซี่ยงไฮ้ ปี2011

หลังจากโพสเรื่องทำวีซ่าจีนล่าสุด(เผื่อตัวเองด้วยค่ะ เพราะไม่ได้ไปจีนมาหลายปีแล้ว กันลืม) ไปจีนรอบนี้ไฮโซหน่อย ปกติไปแต่เมืองบ้านนอก คราวนี้ไปเซี่ยงไฮ้ เมืองใหญ่ที่เจริญสุดๆ ยิ่งหลังงานเซี่ยงไฮ้เอ็กซ์โปแล้ว..อย่าให้เซดเลย^^

ไปถึงสนามบินผู่ตง [pudong airportอยากเรียกสนามบินปูดองจัง ]อารมณ์สนามบินนี้ รู้สึกเหมือนสนามบิน chubu centrair ที่นาโงยายังไงบอกไม่ถูกค่ะ สงสัยเล่าเรื่องเซี่ยงไฮ้จบคงต้องโพสสนามบินที่นาโงยากันต่อ
เมืองจีนในวันนี้ทันสมัยมากๆ ก่อนมาเซี่ยงไฮ้ ลองเซิร์ทอ่านของท่านอื่นๆหลายๆคนบอกว่า เหมือนฝรั่งเศสที่มีคนจีนอยู่ อันนี้ก็ขอยกมือเห็นด้วยค่ะ



จากสนามบินเราสามารถเข้าไปในเมืองเซี่ยงไฮ้ได้ไม่ยากและหลายเส้นทาง โดยไม่ต้องพึ่งแท็กซี่เลย นำหน้าสุวรรณภูมิบ้านเราไปหลายขุม เพราะขนาดมีแอร์พอร์ตลิงค์แล้ว ป้ายไปขึ้นแอร์พอร์ตลิงค์ก็ยังหายากอยู่ ไม่รู้กลัวคนจะไปขึ้นเยอะรึยังไงไม่ทราบค่ะ^^


เรานั่งรถไฟสาย 2 (เพราะราคาถูกสุดค่ะ และก็ไม่ได้ช้าเท่าไหร่) ราคาน่าจะไม่ถึง9หยวนด้วยซ้ำ ส่วนรถไฟหัวแม่เหล็กที่เขาบอกว่าเร็วที่สุด รู้สึกราคาจะอยู่ที่(ประมาณนะคะ) 20หยวนได้
[7-11/7/2011]

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ทำวีซ่าจีน..เค้าว่าง๊าย..ง่าย

ที่ว่าง่ายก็เพราะว่า วีซ่าจีน เราสามารถฝากคนอื่นหรือเอเย่นไปทำก็ได้ค่ะ แต่สำหรับผู้ที่อยากมีประสบการณ์ในการขอวีซ่า ก่อนไปผจญภัยในจีน ก็ทำตามขั้นตอนได้เลย^^

เจ้าของบล็อกกำลังจะไปจีนอีกรอบนึง เลยต้องมานั่งเตรียมตัวเหมือนกัน คราวนี้เพื่อจะได้เก็บข้อมูลเพื่อตัวเองเผื่อในครั้งต่อๆไปด้วย ^^


สถานที่รับทำวีซ่าจีน ตั้งอยู่ที่ อาคาร AA Building ติดกับสะพานลอยป้ายรถเมล์สถานทูตจีน ติดซอยรัชดาภิเษก 3 อยู่ใกล้ๆ กันกับรั้วของตัวสถานทูตจีน สถานทูตจีนจะอยู่ตรงกันข้ามกับตึก TRUEพอดีค่ะ


การเดินทางก็สะดวก สามารถไปโดย รถไฟฟ้าใต้ดิน ลงสถานีพระราม 9 ออกทางออกที่ 1 ถ้าลงสถานีศูนย์วัฒนธรรม ออกที่ทางออกที่ 2


สำหรับคนที่ขับรถไป สถานทูตไม่มีที่จอดรถ แต่เราสามารถจอดที่อาคารฟอร์จูนที่อยู่ติดๆกันได้   ถ้าเดินทางโดยรถเมล์ ไม่ทราบค่ะT.T


เปิดรับทำวีซ่า  9.00 น. ปิดเวลา 11.30 น.



สิ่งที่ต้องเตรียมไป


1.พาสปอร์ต ที่มีหน้าว่างเหลืออย่างน้อย 2 หน้า และมีอายุก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 6 เดือน


2.รูปถ่าย 1 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว  1 ใบ ฉากหลังเป็นสีฟ้าหรือขาว

3.ใบ application ในเว็บของสถานทูตจีนประจำประเทศไทย ไปโหลดมากรอกไว้ก่อนได้ค่ะ แต่ที่สถานทูตก็มีให้ แต่อย่าลืมเตรียมปากกาไปเองด้วยนะคะ
http://www.china-embassy.org/chn/hzqz/zgqz/P020070611087242661716.pdf






อัตราค่าธรรมเนียมวีซ่า


Single Entry
สามารถเดินทางเข้าได้ 1 ครั้ง วีซ่ามีอายุ 3 เดือน ต้องเดินทางเข้าประเทศจีนภายใน 3 เดือนหลังจากวันที่ออกวีซ่า และอยู่ได้นาน 30 วัน



1 วันได้วีซ่า  ค่าธรรมเนียม  2,200 บาท/2-3 วัน ได้วีซ่า  ค่าธรรมเนียม  1,800 บาท
/4 วันได้วีซ่า  ค่าธรรมเนียม1,000 บาท




Double Entry


1 วันได้วีซ่า  ค่าธรรมเนียม 3,200 บาท / 2-3 วัน ได้วีซ่า  ค่าธรรมเนียม 2,800 บาท
/ 4 วันได้วีซ่า  ค่าธรรมเนียม 2,000 บาท


Multiple Entry, Half-year  ภายในครึ่งปี เข้าจีนกี่ครั้งก็ได้
1 วัน ได้วีซ่า  ค่าธรรมเนียม  4,200 บาท / 2-3 วันได้วีซ่า  ค่าธรรมเนียม 3,800 บาท
/ 4 วันได้วีซ่า  ค่าธรรมเนียม 3,000 บาท


Multiple Entry, One-year
1 วัน ได้วีซ่า  ค่าธรรมเนียม 5,700 บาท / 2-3 วัน ได้วีซ่า  ค่าธรรมเนียม 5,300 บาท
 / 4 วันได้วีซ่า  ค่าธรรมเนียม 4,500 บาท

ตอนรับวีซ่า ไม่ต้องไปกดบัตรคิวค่ะ สามารถไปเคาน์เตอร์หมายเลข 14 ที่อยู่ซ้ายสุดแล้วต่อคิวรอรับได้เลย


วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2552

กระเทียมแต้มสิว

หลายวันก่อน นอนดึก สิววัยดึกเลยปูดขึ้นมาเม็ดนึง
ตอนแรกก็ดีใจ ที่เรายังสาวอยู่ 555 แต่ไอ้รอยดำสิวอันเก่าที่มันยังไม่จาง ทั้งที่มันหายไปเป็นเดือนแล้ว ยังคงดำ ฟ้องว่า ก่อนหน้านี้ เคยมีสิวให้เจ็บใจ เพราะมันไม่หายง่ายเหมือนวัยแรกสาว
เลยเซิร์ทๆหาว่า ถ้าเราไม่ไปหาหมอสิว จะมีวิธีไหน ที่ง่ายกว่านั้น
กระเทียมค่ะ กระเทียม ในครัวนี่ละ
สาวๆจากหลายๆเว็บเขาบอกว่า เอากระเทียม ปาดเนื้อบางๆ แต้มสิวบ่อยๆ สัก 10นาที แล้วล้างออก สิวจะค่อยๆยุบ
เราอ่านๆๆๆๆๆไปเยอะมาก จนชัวร์ แต่มีบางคนเขาทำแล้ว สิวไหม้ รอยดำใหญ่กว่าสิวเดิม
เลยเข้าไปอ่าน ปรากฎว่า น้องเค้า โลภ เอากะเทียมแปะทิ้งทั้งคืน ตื่นมาสิวแหกเลย
เพราะงั้น ก็ ช้าๆ แต่สิวยุบหายดีกว่าเน้อ
อ้อ เราลองทำเมื่อวาน เเต่จิ้มๆแค่นาทีเดียว(กลัว)ไอ้สิวเม็ดบะเอ้ก ก็ยุบลง แสดงว่า ของเค้าได้ผลหว่ะ
แต่ตอนทา แสบชิบเป๋ง คืนนี้ ว่าจะลองทำอีก
บางคนก็ว่ารักษาสิวให้กินกระเทียมอัดเม็ด เพราะมีสารฆ่าเชื้อ แต่ไงก็ตาม กระเทียมค่อนข้างแรง เวลาใช้กับผิวหน้าก็ระวังนิดละกันนะ